กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร สนับสนุนเกษตรกรได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ในราคาที่เป็นธรรม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร สนับสนุนเกษตรกรได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ในราคาที่เป็นธรรม พร้อมสร้างเครือข่ายผู้ผลิตปัจจัยการผลิตคุณภาพ มุ่งสร้างต้นแบบความร่วมมือด้านปัจจัยการผลิตภายใต้แนวทางประชารัฐ
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามและประกาศเจตนารมณ์ “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร” ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสมาคมการค้าปัจจัยการผลิต จำนวน 7 สมาคม มีผู้ประกอบการ 238 ราย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เร่งบูรณาการขับเคลื่อน “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร” ตามนโยบายรัฐบาล โดยมีแผนดำเนินการรองรับฤดูการผลิตปี 2559/60 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในราคาที่เป็นธรรม พร้อมสร้างเครือข่ายผู้ผลิตปัจจัยการผลิตคุณภาพโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันเกษตรกร ขณะเดียวกันยังมุ่งสร้างต้นแบบความร่วมมือด้านปัจจัยการผลิตภายใต้แนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการผลิตของเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การสร้างเครือข่ายผู้ผลิตปัจจัยการผลิตคุณภาพ 2) พัฒนาต้นแบบความร่วมมือด้านปัจจัยการผลิตตามแนวทางประชารัฐในพื้นที่แปลงใหญ่ 3) จัดตลาดนัดปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ 4) กิจกรรมส่งเสริมการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต 5) ส่งเสริมร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ ซึ่งคาดว่าจะเกิดเครือข่ายผู้ผลิตปัจจัยการผลิตคุณภาพด้านพืชที่เข้าถึงเกษตรกร สามารถตรวจสอบฐานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และได้ต้นแบบด้านปัจจัยการผลิตตามแนวทางสานพลังประชารัฐที่มีประสิทธิภาพ สามารถขยายผลต้นแบบไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ที่มีลักษณะการทำการเกษตรในรูปแบบเดียวกันได้
“ภายหลังจากการลงนาม MOU แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 59 จะเริ่มดำเนินกิจกรรม 3 ส่วน ได้แก่ 1) การรักษาคุณภาพ โดยผู้แทนทั้ง 7 สมาคม 238 ราย จะติดตามแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ เกษตรกรสามารถคืนสินค้าตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ ได้ 2) การลดราคา อาทิ การลดราคาปุ๋ย เหลือกระสอบละ 20 บาท จำนวนกระสอบละ 50 กิโลกรัม หรือลดราคาปุ๋ย ตันละ 400 บาท จำนวน 1 ล้านตัน รวมเป็นเงินที่ลดลง 400 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งจะดำเนินการนำร่องในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน มิ.ย. 59 โดยจะลดราคาปุ๋ยตันละ 400 บาท จำนวน 120,000 ตัน รวมเป็นเงินที่ลดลง 48 ล้านบาท สำหรับปุ๋ยส่วนที่ไม่ได้ลดราคา จะมีคูปองมูลค่า 5 – 50 บาท แนบไปกับบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ เมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ จะมีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 และการลดราคาเมล็ดพันธุ์ด้วย และ 3) การอบรมให้ความรู้ จะมีการจัดอบรมเกษตรกรให้มีความรู้ด้านการใช้สารกำจัดศัตรูพืช ช่วง มิ.ย. – ก.ย. 59 รวม 40 จังหวัด เกษตรกร 48,000 คน และการจัดทำป้ายรณรงค์การใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถซื้อปัจจัยการผลิตที่เข้าร่วมโครงการได้จากร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร จำนวน 20,000 กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีเครื่องหมาย “ปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ Q” แสดงอยู่ที่หน้าร้าน” พลเอก ฉัตรชัย กล่าว
ที่มา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.moac.go.th/ewt_dl_link.php?nid=18380&filename=index2015
play youtube,
xvideos,
xhamster,
vvlx,
xporn,
xnxx,
Are There Sharks In Jamaica,
Next Boxing Fight,
Jelly Walker,
Aaron Judges,
Sofi Banking Reviews,
Proximo Juego De Cuba En El Clasico Mundial De Beisbol,
Jim Carrey Grinch Smoking,
Cut Line Us Open,
German Open,
Cj Thoroughbreds,
Humanoid Spongebob,
New Orlean Pelicans,
Cj Thoroughbreds,
How To Watch Someone Ig Story Without Them Knowing,
Difeel Biotin,
Exchange Rate Dollar To Birr,