homescontents
taksim escort mecidiyekoy escort beykent escort
istanbul escort ataköy escort kadıköy escort şişli escort
istanbul escort
bornova escort bornova escort
pendik escort maltepe escort anadolu escort bostancı escort kadıköy escort ataşehir escort ümraniye escort
sakarya escort sakarya escort sakarya escort sakarya escort serdivan escort adapazarı escort sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sakarya escort bayan sapanca escort
film izle
alanya escort
izmir escort bayan
เพิ่มสินค้าสำเร็จ!
ไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้!
babilbet giriş jascasino giriş jascasino güncel giriş jascasino yeni giriş jascasino yeni giriş ilbet yeni giriş tulipbet yeni giriş piabella casino bahisbudur giriş betmoney giriş starzbet yeni giriş megapari yeni giriş levantcasino giriş radabet yeni giriş bahisbey yeni giriş Bircasino yeni giriş diyarbet yeni giriş runtobet yeni giriş
สาระน่ารู้ข่าวสาร

เตือนภัย : โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน

ลักษณะอาการ

     เริ่มแรกใบที่ปลายกิ่งมีสีซีดไม่เป็นมันเงา เหี่ยวลู่ลง เมื่อรุนแรงมากขึ้นใบจะเหลืองและหลุดร่วง หากขูดดูบริเวณรากจะพบการแตกรากฝอยมากผิดปกติ แสดงอาการเน่า มีลักษณะเปลือกล่อนหรือรากถอดปลอก และเปื่อยยุ่ยขาดง่าย รากสีน้ำตาลเข้มถึงดำ เนื้อเยื่อด้านในเป็นสีน้ำตาลดำ เมื่อเป็นโรครุนแรงอาการเน่าจะลามไปยังรากแขนงและโคนต้น หรืออาจลุกลามขึ้นลำต้น แผลสีน้ำตาลไปจนถึงสีน้ำตาลปนม่วง ลักษณะฉ่ำน้ำ สังเกตเห็นคล้ายคราบน้ำบนผิวเปลือก ในช่วงเช้าที่มีอากาศชื้นอาจเห็นเป็นหยดของเหลวสีน้ำตาลแดงเยิ้มออกมาจากบริเวณแผล และจะค่อยๆแห้งไปในช่วงที่มีแดดจัด ทำให้เห็นเป็นคราบ เมื่อใช้มีดถากบริเวณคราบจะพบเนื้อเยื่อเปลือกและเนื้อไม้เป็นแผลสีน้ำตาล หากแผลลุกลามรอบโคนต้นจะทำให้ต้นโทรม ใบร่วงหมดต้นและยืนต้นตายได้ ต้นที่ถูกทำลายมักพบรูพรุน ซึ่งเป็นการเข้าทำลายของมอด และมอดจะเป็นตัวการในการแพร่กระจายเชื้อไปยังส่วนอื่นของต้นต่อไป

เชื้อสาเหตุ:  เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ได้แก่ ไฟทอปธอร่า (Phytophthora palmivora), พิเทียม (Pythium spp.) ไฟโตพิเทียม (Phytopythium spp.) และฟิวซาเรียม (Fusarium spp.)

อาการรากเน่า เปื่อยยุ่ย หลุดร่อนง่าย เนื้อเยื่อภายในสีน้ำตาลดำ

รอยแผลมีน้ำเยิ้มเปลือกสีน้ำตาลดำ เมื่อถากเปลือกออกดู พบเนื้อเยื่อภายในเสียหาย

การแพร่ระบาด

     เชื้อราจะแพร่กระจายในอากาศไปตามลม น้ำและฝน เนื่องจากเชื้อราสร้างสปอร์ที่สามารถเคลื่อนที่ไปตามน้ำได้เรียก ซูโอสปอร์ (zoospore) และสร้างสปอร์ที่สามารถพักตัวอยู่ในดินได้เป็นเวลานานเรียกว่าคลาไมโดสปอร์ (chlamydospore) เมื่อมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็สามารถงอกเส้นใยเข้าทำลายพืชได้ โรครากเน่าโคนเน่าระบาดได้ดีช่วงที่มีฝนตกชุก ความชื้นสูง

ระบบรากเสียหาย ท่อน้ำท่ออาหารเสียหาย แสดงอาการใบเหลือง ใบร่วง ต้นโทรมและยืนต้นตายได้

การป้องกันกำจัด

  1. แปลงปลูกควรมีการระบายน้ำที่ดี ไม่ควรมีน้ำท่วมขัง
  2. ปรับปรุงสภาพดินให้มีค่าความเป็นกรดด่างของดินประมาณ 6.5 การใช้ ปุ๋ยยูโอนิกซ์ หรือชุดเรียกราก (ยูโอนิกซ์ + ยูเฟียต) อยู่เสมอจะส่งเสริมให้ดินไม่เป็นกรด และส่งเสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินช่วยแข่งขันกับเชื้อก่อโรค
  3. กระตุ้นการเกิดรากใหม่ทดแทนรากเดิมที่เสียหายด้วย ยูโอนิกซ์ 300 ซีซี + ยูเฟียต 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ร่วมกับสารป้องกันกำจัดโรคทางดิน มิลล่า 300 ซีซี สลับ ซับลา 300 กรัม สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดทางดินรอบชายพุ่ม 2-3 ครั้ง ห่างกันทุก 10-15 วัน
  4. กรณีรอยแผลเล็ก ถากแผลบริเวณที่เป็นโรคออกเล็กน้อยให้แผลเรียบ แล้วทาด้วย ซับลา 50 กรัม สลับ อินดีฟ 100 ซีซี สลับ ไดเมโทมอร์ฟ+แมนโคเซบ 50 กรัม สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 30 ซีซี ร่วมกับการกำจัดมอดและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วย ไซปรอย35 20 ซีซี + ซีวิว 30 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ทาบริเวณแผลทุก 5-7 วัน จนกว่าแผลจะหยุดลุกลาม หากมีฝนตกชุกหรือความชื้นสูงควรทาให้ถี่ขึ้น
  5. กรณีรอยแผลใหญ่หรือสูง ถากแผลบริเวณที่เป็นโรคออกเล็กน้อยให้แผลเรียบในบริเวณที่ถากถึง แล้วฉีดพ่นด้วย ซับลา 300 กรัม สลับ อินดีฟ 100 ซีซี สลับ ไดเมโทมอร์ฟ+แมนโคเซบ 400 กรัม สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ร่วมกับการกำจัดมอดและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วย ไซปรอย35 200 ซีซี + ซีวิว 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นอาบโชกทั่วลำต้นทุก 7-10 วัน จนกว่าแผลจะหยุดลุกลาม หากมีฝนตกชุกหรือความชื้นสูงควรฉีดพ่นให้ถี่ขึ้น

 

  • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสาร ควรผสม คัพเวอร์กรีน 100 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ก่อนผสมสารทุกครั้ง
  • เพื่อป้องกันการดื้อยา ไม่ควรใช้สารกลุ่มเดิมติดต่อกันเกิน 2-3 ครั้ง

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานยูนิไลฟ์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ยูนิไลฟ์ สำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ 02-399-5555 หรือ ไอดีไลน์ @unilife



bakerdepolama.com
วิธีสั่งของออนไลน์
Designed By: josen