homescontents
เพิ่มสินค้าสำเร็จ!
ไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้!
babilbet giriş jascasino giriş jascasino güncel giriş jascasino yeni giriş jascasino yeni giriş ilbet yeni giriş tulipbet yeni giriş piabella casino bahisbudur giriş betmoney giriş starzbet yeni giriş megapari yeni giriş levantcasino giriş radabet yeni giriş bahisbey yeni giriş Bircasino yeni giriş diyarbet yeni giriş runtobet yeni giriş
สาระน่ารู้ข่าวสาร

โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน

โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน

     เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ได้แก่ ไฟทอปธอร่า (Phytophthora palmivora), พิเทียม (Pythium spp.) และไฟโตพิเทียม (Phytopythium spp.)

ลักษณะอาการ

     เริ่มแรกใบที่ปลายกิ่งมีสีซีดไม่เป็นมันเงา เหี่ยวลู่ลง เมื่อรุนแรงใบจะเหลืองและหลุดร่วง ขูดดูบริเวณรากจะพบการแตกรากฝอยมากผิดปกติ  เน่า เปลือกล่อนหรือรากถอดปลอก เปื่อยยุ่ยขาดง่าย สีน้ำตาลเข้มถึงดำ เมื่อรุนแรงจะเน่าลามไปยังรากแขนง โคนต้น หรือขึ้นลำต้น เกิดแผลสีน้ำตาลไปจนถึงสีน้ำตาลปนม่วง ฉ่ำน้ำ เห็นคล้ายคราบน้ำบนผิวเปลือกในช่วงเช้าที่มีอากาศชื้น อาจเห็นหยดของเหลวสีน้ำตาลแดงเยิ้มออกมาจากแผล และจะค่อยๆแห้งไปในช่วงที่แดดจัด มองเห็นเป็นคราบ เมื่อใช้มีดถากบริเวณคราบจะพบเนื้อเยื่อเปลือกและเนื้อไม้เป็นแผลสีน้ำตาล หากแผลลุกลามรอบโคนต้นจะทำให้ต้นโทรม ใบร่วงหมดต้นและยืนต้นตายได้ ต้นที่เป็นโรคมักพบรูของมอด และมอดจะเป็นตัวแพร่กระจายเชื้อไปยังส่วนอื่นของต้นต่อไป

อาการรากเน่า เปื่อยยุ่ย หลุดร่อนง่าย เนื้อเยื่อภายในสีน้ำตาลดำ

รอยแผลมีน้ำเยิ้ม เปลือกสีน้ำตาลดำ เมื่อถากเปลือกดูเนื้อเยื่อภายในเสียหาย

การแพร่ระบาด

     เชื้อแพร่กระจายในอากาศไปตามลม น้ำและฝนได้ เนื่องจากเชื้อราสร้างสปอร์ที่สามารถเคลื่อนที่ไปตามน้ำได้เรียก ซูโอสปอร์ (zoospore) และสร้างสปอร์ที่สามารถพักตัวอยู่ในดินได้เป็นเวลานานเรียกว่า คลาไมโดสปอร์ (chlamydospore) เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็สามารถงอกเส้นใยเข้าทำลายพืชได้ ระบาดได้ดีช่วงที่มีฝนตกชุก ความชื้นสูง

ระบบรากเสียหาย ท่อน้ำท่ออาหารเสียหาย แสดงอาการใบเหลือง ใบร่วง ต้นโทรมและยืนต้นตายได้

การป้องกันกำจัด

  1. แปลงปลูกควรมีการระบายน้ำที่ดี ไม่ควรมีน้ำท่วมขัง
  2. เมื่อพบรอยแผล ให้ใช้สารตามคำแนะนำ
    1. รอยแผลเล็ก ถากแผลบริเวณที่เป็นโรคให้แผลเรียบ ทาด้วย คัพเวอร์กรีน 10 ซีซี + (ซับลา 50 กรัม สลับ ไดเมโทมอร์ฟ+แมนโคเซบ 50 กรัม สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 30 ซีซี) ร่วมกับการกำจัดมอดและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วย ฟิพเปอร์ 50 ซีซี + ซีวิว 30 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ทาบริเวณแผลทุก 7-10 วัน จนกว่าแผลจะหยุดลุกลาม หากมีฝนตกชุกหรือความชื้นสูงควรทาให้ถี่ขึ้น
    2. รอยแผลใหญ่หรืออยู่สูง ถากแผลบริเวณที่เป็นโรคออก ในบริเวณที่ถากถึง ฉีดพ่นด้วย คัพเวอร์กรีน 100 ซีซี + (ซับลา 300 กรัม สลับ ไดเมโทมอร์ฟ+แมนโคเซบ 400 กรัม สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 300 ซีซี) ร่วมกับการกำจัดมอดและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วย ฟิพเปอร์ 300 ซีซี + ซีวิว 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นอาบโชกทั่วลำต้นทุก 7-10 วัน จนกว่าแผลจะหยุดลุกลาม หากมีฝนตกชุกหรือความชื้นสูงควรฉีดพ่นให้ถี่ขึ้น
  3. กระตุ้นการเกิดรากใหม่ทดแทนรากเดิมที่เสียหายด้วย ยูโอนิกซ์ 300 ซีซี + นีโอ-ไฟต์ 300 ซีซี ร่วมกับสารป้องกันกำจัดโรคทางดิน มิลล่า 300 ซีซี หรือ ซับลา 300 กรัม หรือ เมทาแลกซิล 300 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดทางดินรอบชายพุ่ม 2-3 ครั้ง ห่างกันทุก 10-15 วัน
  4. ปรับปรุงสภาพดินให้มีค่าความเป็นกรดด่างของดินประมาณ 6.5 โดยการใช้ ปุ๋ยยูโอนิกซ์ อยู่เสมอจะส่งเสริมให้ดินไม่เป็นกรด และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดินที่มีประโยชน์ในการแข่งขันกับเชื้อก่อโรค

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานยูนิไลฟ์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ยูนิไลฟ์ สำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ 02-399-5555 หรือ ไอดีไลน์ @unilife



วิธีสั่งของออนไลน์
Designed By: josen